1. ปรับระดับศีรษะ
หน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณและระดับศีรษะควรอยู่ในตำแหน่งตรงกัน อย่าหันจอไว้ทางซ้ายหรือขวาเพราะมันจะทำให้คุณปวดคอลามไปจนถึงหลังได้
2. ขยับเมาส์มาใกล้ ๆ
อย่าต้องให้ถึงขั้นเอื้อมมาไปลากเมาส์กันเลยค่ะ ยิ่งใกล้มือมากเท่าไหร่อาการปวดเรื้อรังเหล่านี้ก็จะหายไปได้ไวที่สุด จำไว้ว่าเมาส์ต้องอยู่ใกล้มือนะ
3. เลือกเฟ้นเก้าอี้ที่เหมาะสม
หาเก้าอี้ที่นั่งและเหมาะสม ถ้ามีพนักพิงหลังที่สบายและเหมาะกับสรีระเรามากที่สุดได้ยิ่งดี แต่ไม่ควรให้มันเอนเกินไปหรือแข็งเกินไปค่ะ
4. หายใจจากท้อง
เรียกว่าเป็นการทำสมาธิอย่างนึงเลยล่ะ กำหนดสมาธิไปที่สะดือแล้วหายใจเข้าออกช้า ๆ วิธีนี้ส่งผลกับกล้ามเนื้อและช่วงบนของร่างกาย ผ่อนคลายอาการปวดหลังได้
5. ปรับระยะคีย์บอร์ดให้เหมาะสม
ตำแหน่งที่ดีที่สุดในการวางคีย์บอร์ดเวลาพิมพ์งานคือ ลำตัวควรอยู่ห่างจากแขนในระยะ 2-3 นิ้ว และตั้งตัวตรงเพื่อมองจอได้ในระดับสายตา
6. วางเท้าให้ถูกต้อง
ระหว่างทำงานเท้าทั้งสองข้างควรวางราบกับพื้น อย่าไขว่ห้างหรือนั่งยกขาขึ้นมา เพราะจะทำให้ยิ่งปวดหลังและคอมากขึ้น แถมนั่งแบบนี้ช่วยลดความเครียดได้ด้วยนะ
7. พักบ้างอะไรบ้าง
ใครที่ทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ ลุกไปพักสักประมาณครึ่งชั่วโมงเป็นการดี เป็นการยืดเส้นยืดสายช่วยผ่อนคลายการกดทับบริเวณคอ หลัง และเอว
8. ตำแหน่งของหัวเข่า
อย่างที่บอกว่าเท้าวางราบกับพื้นแล้ว หัวเข่าก็ต้องสัมพันธ์กันด้วย ปรับหัวเข่าให้อยู่ในระดับ 90 องศากับข้อเท้า จะช่วยให้กระดูกสันหลังตรงและไม่ปวดหลัง
9. ยืดไหล่เสียบ้าง
หมุนไหล่มาด้านหน้าและด้านหลังเหมือนกายบริหารสมัยเด็ก ๆ ใช้ได้ผลนะ หรือจะบีบนวดเบา ๆ ที่ต้นคอก็ได้ วิธีนี้ช่วยยืดเส้นที่ตึงให้ผ่อนคลายลดอาการปวดคอและสะบักหลังได้
10. เลิกใช้โน้ตบุ๊คซะบ้าง
ข้อจำกัดของการใช้โน้ตบุ๊คคือคุณไม่สามารถแยกจอมอร์นิเตอร์กับคีย์บอร์ดออกจากกันได้ ลองเปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพื่อจับระดับสายตาให้บาลานซ์ดูบ้างนะ
11. อย่านั่งไขว่ห้าง
ใครนั่งท่านี้บ่อย ๆ รีบเปลี่ยนด่วน เพราะมันทำให้กระดูกสันหลังของเราคดได้ แถมยังเสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอดอีกด้วย
12. อย่าหนีบโทรศัพท์ไว้ที่ไหล่
ใครเป็นสาวออฟฟิศแล้วชอบพิมพ์งานไปรับสายโทรศัพท์ไป แถมหนีบเอาไว้ระหว่างหูกับไหล่ เลิกเลยนะจ๊ะพฤติกรรมนี้เพราะมันกำลังทำร้ายคอและไหล่ของเรามากๆ แต่ถ้าจำเป็นต้องทำก็อย่าให้เกิน 5 นาทีก็แล้วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น